เรื่องศัลยกรรม ต้องขอยกให้เกาหลีเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นหากใครอยากศัลยกรรมใบหน้าให้ออกมาสวยเป็นธรรมชาติแบบสาวเกาหลี Daesong Exclusive แนะนำให้ดูรีวิวการศัลยกรรมของสาวไทยที่บินไปไกลถึงเกาหลีกระทู้นี้เลยค่ะ
เอาสวยชัวร์ สวยปัง สวยแบบธรรมชาติ ต้องเลือกโรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลีชั้นนำ อย่างโรงพยาบาลบาโนบากิ กระทู้นี้เป็นเคสรีวิวของสาวไทยท่านหนึ่ง ที่ตัดสินใจเลือกทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลบาโนบากิ แม้ว่าใบหน้าเดิมเธอจะดูสวยอยู่แล้ว แต่เธอต้องการที่จะดูสวยขึ้นจึงเลือกตัดสินใจที่จะเข้ารับการทำศัลยกรรม

เธอเล่าว่า เมื่อตัดสินใจเลือกโรงพยาบาลบาโนบากิและเดินทางมาถึงประเทศเกาหลี สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ การเข้ามากรอกข้อมูล และประวัติเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาลทราบก่อน เพื่อที่คุณหมอจะได้ใช้ประกอบการวินิจฉัย และวางแผนการศัลยกรรมแก้ไขใบหน้าค่ะ ซึ่งหากใครที่มีความกังวลไม่เก่งภาษาเกาหลีก็ไม่ต้องเครียดนะคะ เพราะที่นี่จะมีล่ามคอยแปลให้ และช่วยอธิบายเราอย่างละเอียดเลยค่ะ
ซึ่งตัวเจ้าของเคสนี้ เคยผ่านการฉีดโบท็อกซ์กราม และทำตามาก่อน และด้านล่างนี้เป็นรูปก่อนเข้ารับการผ่าตัดค่ะ ซึ่งหากสังเกตุดีๆจะเห็นว่าเธอเป็นคนที่มีโครงหน้าเบี้ยวเล็กน้อย มีกรามค่อนข้างใหญ่ แถมจมูกยังไม่มีดั้งเลย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธออยากแก้ไข
ภายหลังจากการกรอกข้อมูล ล่ามก็จะพาไปเปลี่ยนชุดเพื่อทำการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด โดยเราจะต้องถ่ายรูป ทำ CT SCAN และ เอ็กซเรย์ ต่อด้วยการเข้าไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเบื้องต้นก่อนเข้าพบศัลยแพทย์
เบื้องต้นต้องบอกเลยว่ารู้สึกประทับใจคุณหมอ พนักงาน ล่ามและ ผู้เชี่ยวชาญที่นี่มากค่ะ ทุกคนทำงานกันอย่างละเอียดใส่ใจ และดูเป็นมืออาชีพมากๆ
ภายหลังการเข้าพบคุณหมอสิ่งที่เคสนี้ต้องทำการแก้ไขคือ การทำศัลยกรรมปรับรูปหน้าบริเวณโหนกแก้มกราม และคาง ทำจมูก และ เย็บกล้ามเนื้อตาสองชั้นรวมถึงฉีดไขมันบริเวณหน้าผาก และต่อไปนี้จะเป็นรูปรีวิวผลลัพธ์การศัลยกรรมใบหน้า ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบันที่ครบ 6 เดือนค่ะ

ภายหลังการผ่าตัด ล่ามบอกว่าสามวันแรกเป็นช่วงอันตราย (เรียกว่าเป็นช่วงที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษมากกว่า) เพราะว่าต้องคอยประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอ และต้องพยายามเดินขยับร่างกายเยอะๆ เพราะจะช่วยลดอาการบวมช้ำได้ดี ช่วงนี้จะต้องทานยา บ้วนปากทุก 1-2 ชั่วโมงด้วย และเป็นช่วงที่หน้าบวมเยอะหน่อย แต่ก็จะค่อยๆลดลงอย่างที่เห็นตามภาพเลยค่ะ

ที่นี่จะมีโปรแกรมช่วยลดบวมด้วย ซึ่งเราก็จะได้เข้าไปนอนในตู้อบออกซิเจน ตอนเข้าไปในเครื่องให้ความรู้สึกเหมือนตอนขึ้นเครื่องบินเลย หูจะอื้อเล็กน้อยแต่เมื่อทำเสร็จแล้วจะรู้สึกเบาสบาย และโล่งมากๆ

หลังจากนั้นก่อนบินกลับไทย ก็ต้องไปถ่ายเอกซเรย์ และทำ CT Scan อีกรอบ เพื่อที่คุณหมอจะได้เปรียบเทียบผลลัพธ์ให้ดูระหว่างก่อนศัลยกรรม และหลังศัลยกรรม เพราะคนไข้บางรายอาจจะมีความกังวลว่าหลังทำศัลยกรรมแล้วหน้าดูไม่ค่อยเปลี่ยน แต่นั่นเป็นเพราะภายนอกยังมีอาการบวมอยู่จึงต้องสแกนดูความแตกต่างภายใน

และนี่คือภาพรีวิวหลังการผ่าตัดครบ 3เดือน และ 6 เดือนค่ะ จะเห็นได้ว่าปัจจุบันโครงหน้าเข้าที่มากขึ้น ตาจมูก และใบหน้าดูสวยรับกันอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเจ้าตัวรู้สึกประทับใจมาก เพราะนอกจากจะชอบใบหน้าของตัวเองแล้วคนรอบข้างยักมักจะทักว่าดูสวยขึ้น
สุดท้ายนี้หากใครที่อยากสวยขึ้นแบบคุณคริสเจ้าของเคส ก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศัลยกรรมเกาหลีได้ที่พิกัดช่องทางการติดต่อด้านล่างกระทู้นี้เลยค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/ApP1bLc
เยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์ ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://oppame.co.th/daesong-exclusive/consultant/daesong-exclusive/
Comments